บริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์ สอนทำ SEO สดผ่าน Blogger

แนะนำวิธีทำ SEO เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของ Search Engine ที่มีผลต่อการจัดลำดับผลการค้นหาของเว็บไซต์ หลายคนคงอยากรู้ว่าเครื่องมือค้นหาชื่อดังอย่าง Google, Yahoo และ Bing นั้นมีเทคนิคการจัดลำดับอย่างไร เราพร้อมนำเสนอข้อสมมุติฐานและหลักการเพื่อเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของการทำ SEO ที่ทันสมัยให้กับผู้สนใจทุกคน

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

SEO คืออะไร วิธีทำ SEO มีขั้นตอนอย่างไร

แน่นอนสำหรับผู้ประกอบธุรกิจการขายสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์คงให้ความสนใจกับการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีการทำ SEO อยู่ไม่น้อย เรามาทำความรู้จักกับ "เอส อี โอ" กันดีกว่า

SEO คืออะไร
คำว่า SEO ย่อมาจากคำ่ว่า Search Engine Optimization แบ่งออกเป็นสองคำหลักๆ ให้เข้าใจง่าย คำแรกคือ Search Engine แปลว่าเครื่องมือค้นหา และคำที่สองคือ Optimization แปลว่ากระบวนการปรับแต่ง หากพูดถึงความหมายของคำว่า Search Engine Optimization เต็มๆ นั้นแปลได้ว่า "การปรับแต่งสำหรับเครื่องมือค้นหา" โดยการปรับแต่งที่ว่านี้ก็คือ การปรับแต่งเว็บไซต์นั่นเอง

การปรับแต่งเว็บไซต์
มือใหม่หลายคนคงไม่เข้าใจว่า SEO นั้นเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างไร อยากให้ทราบว่า Google มีการส่ง Robots เข้ามาเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ โดย Robots นี้จะทำหน้าที่อ่าน HTML Code จากหน้าเว็บเพจต่างๆ และนำข้อมูลที่ได้มาจัดเรียงทำ Index (รายการค้นหา) เข้าสู่ระบบ โดยที่การนำข้อมูลมาจัดเรียงนั้น Google มีเทคโนโลยีแนวคิดที่ซับซ้อนที่เรียกว่าระบบ Algorithm (อัลกอลิทึม) เกี่ยวกับการจัดเรียงเนื้อหาตามลำดับความสำคัญและความนิยมอย่างชาญฉลาด ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราค้นหาข้อมูลคำว่า "ท่องเที่ยว" ระบบ Search Engine ก็จะแสดงผลการค้นหารายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวทั้งหมดมาแสดงให้เราได้ทราบ จุดน่าสนใจก็คือ Google รู้ได้อย่างไรว่าเว็บไซต์ไหนบ้างที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว และเว็บไซต์ไหนบ้างที่ไม่เกี่ยวกับท่องเที่ยว ส่วนนี้คือความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างภายในหน้าเว็บเพจของเราที่เรียกกว่า การปรับแต่ง On-Page เพื่อบอกให้กับ Robots ที่มาเก็บข้อมูลเว็บไซต์ได้ทราบว่า เนื้อหาในหน้าเว็บเพจนี้กล่าวถึงอะไรและเน้นคีย์เวิร์ดคำไหน เป็นต้น

การปรับแต่งเว็บไซต์ในส่วนของ On-Page
ข้อมูลส่วนนี้คือปัจจัยภายในเว็บไซต์ที่จะเป็นตัวบอกว่าเนื้อหาบนหน้าเว็บเพจของคุณกล่าวถึงอะไร และเป็นเว็บเพจที่เน้นใช้คีย์เวิร์ดคำไหน โดยคุณสาามารถปรับแต่งได้ดังนี้

ระบุหัวข้อหลักให้กับหน้าเว็บเพจ ส่วนนี้คุณสามารถปรับแต่งได้โดยใส่คีย์เวิร์ดลงไปในส่วนของแท็ก <title> และ <h1> ได้

ระบุหัวข้อรองหรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องให้กับเว็บเพจ ส่วนนี้คุณสามารถปรับแต่งได้โดยใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องที่มีความสัมพันธ์กันกับเนื้อหาในหน้านั้นลงไปในแท็ก <h2> และ <h3> ได้

เน้นคีย์เวิร์ดหรือคำที่ต้องการให้ Robots ทราบ คุณสามารถใช้คุณสมบัติตัวหนา ตัวเอียง โดยใช้แท็ก <strong>, <i> และ <u> ในการเน้นข้อความบางคำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดสำหรับสร้างความสัมพันธ์ของเนื้อหาในหน้าดังกล่าวได้

เนื้อหาที่กล่าวถึงคีย์เวิร์ดคำนั้น เนื้อหารายละเอียดที่เขียนลงไปในหน้าเว็บเพจบางครั้งอาจไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อมากนัก คุณไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอเพียงส่วนที่เป็นเนื้อหาดังกล่าวมีคีย์เวิร์ดผสมอยู่โดยประมาณ 1-5% ของคำนวนคำทั้งหมด ก็เพียงพอต่อการทำ SEO แล้ว

การปรับแต่งเว็บไซต์ในส่วนของ Off-Page
ส่วนนี้เป็นปัจจัยภายนอกในการสร้างค่าความนิยมของเนื้อหาและมีส่วนช่วยให้หน้าเว็บเพจดังกล่าวมีอันดับที่ดีขึ้นบน Search Engine คุณสามารถทำได้ดังนี้

สร้าง Back Link (ลิงค์กลับ) มายังเว็บเพจของคุณ การโปรโมทเว็บไซต์โดยการโฆษณาเขียนบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าและบริการเพื่อสร้างความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคต่างๆ พร้อมทั้งสร้างลิงค์กลับมายังเว็บไซต์หลัก

ลงโฆษณากับทางเว็บไซต์อื่นๆ ด้วยลิงค์ตัวอักษรหรือลิงค์ป้าย Banner ก็ดี สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นลิงค์กลับมายังเว็บไซต์หลักและส่งผลทำให้เว็บไซต์หลักได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นได้

วิธีทำ SEO ข้างต้นนี้ เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ที่ครอบคลุมและได้ผลตามหลัก Google Webmaster Guideline แต่ทั้งนี้ผู้ทำ SEO ควรจะคำนึงถึงความเหมาะสมในเนื้อหาและ Back Link ที่เพิ่มจำนวนขึ้นจากการโปรโมทเว็บไซต์ โดยเน้นการโปรโมทเว็บไซต์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าอย่างตรงเป้าหมาย ควรหลีกเลี่ยงการสร้างเนื้อหาซ้ำ้ซ้อน เนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์เกี่ยวกับตัวสินค้าและบริการ หรือลิงค์กลับจำนวนมากจนอาจทำให้ดูเหมือนการ Spam ลิงค์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษเกี่ยวกับการจัดอันดับได้